Author Archives: admin

การนำเสนอภาพของการถ่ายทำภาพยนตร์ผู้ถ่ายจำเป็นจะต้องกำหนดรูปแบบเพื่อกำหนดลักษณะภาพ

การถ่ายภาพยนตร์ทุกครั้งผู้ถ่ายทุกคนพยายามอย่างยิ่งในการบันทึกภาพเพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าใจความหมายของภาพ ที่ถ่ายไว้มากที่สุดในขณะที่ภาพปรากฏจอทุก ๆ ช่วงเวลาที่ภาพยนตร์นำเสนอต่อผู้ชมภารกิจนี้ถือเป็นภารกิจหลักของผู้ถ่ายภาพยนตร์ที่ต้องคิดพิจารณารูปแบบของการนำเสนอภาพ ที่ถูกต้องตรงเป้าหมายและปฏิบัติตามหลักการทางภาษาของภาพที่สมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะสามารถกระทำได้ซึ่งแน่นอนที่สุดภาพที่ถูกบันทึกอย่างถูกต้องสวยงามเพียบพร้อมด้วยองค์ประกอบแห่งศิลป์ ย่อมถ่ายทอดสื่อความหมายได้เด่นชัดและสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมให้ติดตามดูภาพยนตร์ ตลอดเวลาอย่างไม่เบื่อหน่าย  ในขณะเดียวกัน ภาพเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้เนื้อหาของภาพยนตร์มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ผู้ถ่ายจะยึดถือแนวทางที่กล่าวมาแล้วเป็นปัจจัยในการถ่ายภาพยนตร์ก็ตาม ก็ยังมีประเด็นหนึ่งฝังแน่นอยู่ในจิตสำนึกของผู้ถ่ายภาพยนตร์ทุกคนในแง่ที่ว่า ทำอย่างไรในการถ่ายแต่ละครั้งจะสามารถควบคุมกล้องถ่ายภาพยนตร์ให้มีความมั่นคงและนิ่มนวล ไม่มีการสั่นกระตุกทุก ๆ สภาวะของการถ่ายทำ ไม่ว่าจะเป็นการ แพน  การทิลท์ ๆ การดอลลี่

การนำเสนอภาพแต่ละช่วงตอนของการถ่ายทำภาพยนตร์ ผู้ถ่ายจำเป็นจะต้องกำหนดรูปแบบเพื่อกำหนดลักษณะภาพให้สอดคล้องกับเนื้อหาและตรงตามวัตถุประสงค์หลักของภาพยนตร์ที่กำหนดไว้ แต่การที่จะประสบผลสำเร็จได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยเครื่องมืออุปกรณ์ ตลอดจนวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสม ทั้งนี้องค์ประกอบต่างๆ เป็นเงื่อนไขของการถ่ายทำ แต่ละครั้งไม่เหมือนกัน  เช่น สภาพของแสง สภาพของสี ลักษณะสถานที่ที่ถ่ายทำ ในแต่ละช่วงของวันฤดูการที่เปลี่ยนไป ตลอดจนฟิล์มที่นำมาใช้งานสิ่งต่างๆที่กล่าวมามีผลกระทบต่อการนำเสนอภาพทั้งสิ้น.

เพราฉะนั้นเรื่องของการถ่ายทำภาพยนตร์ ผู้ถ่ายทำจำเป็นจะต้องเรียนรู้และเข้าใจในเรื่องของแสงและสีให้ถ่องแท้ เพราะแสงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดภาพและแสงอีกนั่นเองที่เป็นแหล่งของสีทั้งปวง  ด้วยเหตุนี้เอง นักถ่ายทุกคนจึงถือว่า แสง เป็นวัตถุดิบที่สำคัญที่สุด ดังนั้นผลของการบันทึกภาพที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งที่ทำการถ่ายทำ ย่อมได้รับอิทธิพลมาจากคุณภาพของแสง ความเข้มของแสงทิศทางของแสงและการแผ่กระจายของแสง รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของแสงที่แปรเปลี่ยนไปตามวันเวลา และฤดูกาลของมัน

ความนิยมเรียนหลักสูตรภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล

การเลือกสาขาวิชาภาพยนตร์และโทรทัศน์

คือการศึกษากระบวนการทำงานด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการวิจารณ์ ซึ่งการเรียนการสอนด้านภาพยนตร์เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานนัก ส่วนอุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นก็เพิ่งมีการเจริญเติบโตขึ้นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น การผลิตภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1880 โดยภาพยนตร์ในยุคแรกเป็นยุคของหนังเงียบ ที่นำการบรรเลงดนตรีออเคสตร้ามาใช้แทนบทพูด ซึ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีในการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ก้าวหน้าไปไกลมาก และมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงมาก แม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ยังสามารถนำมาใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ได้ คนทำภาพยนตร์จึงมีทางเลือกในการสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานมากขึ้น

เนื่องจากในยุคอดีตนั้นสื่อที่มีอิทธิพลมาก เผยแพร่ได้ง่าน พร้อมทั้งมีลักษณะที่น่าเชื่อถือนั้นก็คือด้านวารสารหรือสื่อสิ่งพิมพ์นั่นเอง และสาขาวิชาชีพนี้ก็ได้รับความนิยมจนมีการเปิดการเรียนการสอนในระดับอนุปริญญาขึ้นเป็นครั้งแรกของเมืองไทย  และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศก็ได้มีการเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรนี้มากยิ่งขึ้นในระดับอุดมศึกษา จนกระทั่งในปัจจุบันคณะนิเทศศาสตร์ เป็นคณะหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้รับความนิยมอย่างมากมาย ซึ่งหลักฐานที่จะชี้วัดได้ดี ก็มาจากการที่อัตราการแข่งขันเข้าสู่คณะนิเทศศาสตร์ในแต่ละมหาวิทยาลัยนั้นมีอัตราที่สูงมาก และเป็นคณะยอดนิยมที่มีผู้เลือกมากกที่สุดใน 10 อันดับแรกแทบทุกปี

งานด้านภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลเป็นงานมีคุณค่าทั้งในเชิงธุรกิจและเชิงศิลปะ

เนื่องจากเป็นงานที่เข้าไปมีบทบาทและความสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น ในฐานะที่เป็นสื่อที่ให้ทั้งสาระและความบันเทิง และในแง่ของการเป็นธุรกิจที่กลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับสังคมและประเทศอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลจึงเป็นการออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายตัวในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลโดยเฉพาะ โดยการเรียนการสอนจะมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ควบคู่กับการลงมือปฏิบัติงานจริงในห้องปฏิบัติงานที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมืออันทันสมัยจากการสอนของบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในด้านภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล ทั้งมีการเพิ่มพูนทักษะแก่นักศึกษาด้วยการเชิญบุคลากรผู้อยู่ในสาขาอาชีพการผลิตภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลมาเป็นวิทยากรและอาจารย์พิเศษ

สามารถเข้าถึงโอกาสทางอาชีพทั้งในอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ในฐานะนักเขียนบท โปร์ดิวเซอร์ ผู้กำกับ และยังมีโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการด้านสื่อ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการทำวิจัยด้านสื่อ การพัฒนานโยบาย และการจัดการสื่ออีกด้วย นักศึกษาสาขาวิชาการผลิตสื่อภาพยนตร์ยังสามารถศึกษาต่อในสาขาที่เกี่ยวกับสื่อและการสื่อสาร สื่อสารมวลชน คอมพิวเตอร์กราฟิกดีไซน์หรือเทคโนโลยีกราฟิกดีไซน์ รวมทั้งสาขาที่เกี่ยวกับสื่อรูปแบบใหม่ด้วย

การเลือกสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง

คอหนัง Hollywood ทั้งหลาย หลังจากดูหนังแล้ว เคยมั้ยที่ “อิน” และ “ฟิน” กับหลายๆ ฉาก จนอยากเก็บตังส์แล้วออกเดินทางไปเที่ยวตามรอยหนังเหล่านั้น แต่ก็ไม่รู้ว่า “ฉาก” สวยๆที่เหล่าบรรดา พระ นาง ตัวเอก ทั้งหลายเค้าไปกันมันอยู่ที่ไหนบ้าง ที่สำคัญ มันมีอยู่จริง หรือไม่ วันนี้เลยรวบรวมสถานที่สวยๆในภาพยนตร์ที่มีอยู่จริง มาแนะนำกันใครที่หลงไหลในมนต์เสน่ห์ของเมืองพ่อมด แม่มด จาก “แฮร์รี่ พอตเตอร์” อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนสอนพ่อมดขั้นเทพอย่าง ฮอกวอร์ต และอยากมีส่วนร่วมในบรรยากาศการบินบนไม้กวาดครั้งแรกของแฮร์รี่และผอมเพื่อน ต้องไปที่นี่เลย  ปราสาท Alnwick Castle ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ Northumberland ด้านเหนือของอังกฤษ ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำ แฮร์รี่พอตเตอร์ ในตอนศิลาอาถรรพ์และห้องแห่งความลับ โดยเราจะได้พบกับบรรยากาศ ลานสนามหญ้ากว้างหน้าปราสาท Alnwick ซึ่งเป็นจุดที่เหล่าพ่อมดแม่มดน้อยทำการฝึกบิน เพื่อเล่น ควิชดิช นั่นเองสถานที่ถัดไป ไปต่อกันที่ ป่า Bourne Wood ที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตในการถ่ายทำภาพยนตร์ มีภาพยนตร์เป็นจำนวนมากเลือกใช้โลเคชั่นของป่าแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ฉากสงครามเปิดเรื่องจาก Gladiator , ฉากในเรื่องอภินิหารเข็มทิศทองคำ, แฮร์รี่พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม , แฮร์รี่พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต , กัปตันอเมริกา , ฉากลองเทกอันลือลั่นจาก Children of men  , และ เทพเจ้าสายฟ้าภาค 2 ในฉากเปิดศึกของธอร์ก็มาปักหลักถ่ายทำกันที่ป่านี้ นอกจากชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์แล้วป่าไม้แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่สำคัญกับสิ่งแวดล้อมเพราะมันยังเป็นบ้านให้กับสัตว์หลายสายพันธุ์ที่หายากด้วย

สถานที่ถัดไป ปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ Monty Python and the Holy Grail  เป็นฉากของปราสาทแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งปราสาทแห่งนี้ได้แก่ Doune Castle ในสกอตแลนด์  ปราสาทแห่งนี้ นอกจากจะเป็นฉากหลังในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์ กล่าวคือ เคยเป็นที่พักผ่อนของ “แมรี่ ราชินีแห่งสกอต” ทั้งยังเคยเป็นฐานทัพของกองทหารโดยกองทัพสก็อตกับโอลิเวอร์ครอมเวลอีกด้วย แฟนๆ และ คอหนังซุปเปอร์ฮีโร่ น่าจะจำฉากหลังนี้ได้ เพราะนี่คือ  Mentmore Towers สถานที่ใช้ในการถ่ายทำที่สมมติให้เป็น คฤหาสน์ตระกูลเวย์น สุดเจ๋งของหนุ่มหล่อซุปเปอร์ฮีโร่ “แบท แมน” จาก  Batman Begins นั่นเองสำหรับคฤหาสก์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีความสำคัญมากในสงครามโลกครั้งนั้น เพราะที่นี่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดเก็บและปกป้องงานศิลปะแห่งชาติของอังกฤษ โดยหนึ่งในสมบัติที่สำคัญที่สุดก็คือทองที่ได้รับการใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกของ พระมหากษัตริย์อังกฤษทุกๆพระองค์ นั่นเอง

สถานที่ยอดนิยมในเอเชียสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์

ฮอลลีวูดถูกอกถูกใจเอเชียมาเป็นเวลานานแล้ว ทั้งในด้านวัฒนธรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจ ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ควบคู่กับภูมิทัศน์ที่เหมาะแก่การถ่ายทำภาพยนตร์ ภาษาที่โรแมนติก และที่ขาดไม่ได้ คือความงดงามของสถานที่และฝีมือการถ่ายทำอันประณีต ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์จินตนาการอย่างสุดล้ำในภาพยนตร์หรือความพยายามที่ผู้กำกับ ทุ่มเทลงไปเพื่อจะถ่ายทอดความงามของเอเชียให้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาชาวโลก แต่คงไม่มีวิธีไหนที่จะสัมผัสกับท่วงทำนองและสีสันอันหลากหลายและลึกล้ำของเอเชียได้ดีเท่ากับการไปเยือนสถานที่ถ่ายทำเหล่านั้นด้วยตัวคุณเอง และเพื่อช่วยให้คุณเลือกสถานที่ได้ง่ายขึ้น และนี่คือรายละเอียดส่วนหนึ่งของสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่สวยงามที่สุดบางแห่ง

1.เดอะบีช (The Beach, 2000) บนเกาะพีพีเล ประเทศไทย อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล ซึ่งเป็นเกาะเล็กในหมู่เกาะพีพีทั้งหมดสองเกาะ และเป็นที่ตั้งของบรรดารีสอร์ตทั้งหลาย คุณสามารถดำน้ำสนอร์กเกิล เช่าเรือหางยาวล่องไปชมถ้ำหินปูนในอ่าวพังงา หรือกินอาหารทะเลสด จนพุงกาง และนั่งรอบนผืนทรายขาวละเอียดให้ลีโอ (ฟรองซัวส์) เดินขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับหยดน้ำพราวบนร่าง

2.ลาร่า ครอฟท์ ทูม เรเดอร์ (Lara Croft: Tomb Raider, 2001) ในนครวัด เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา พร้อมกับลิ้มลองอาหารท้องถิ่น (เช่นพวกเนื้องูและกบ) แล้วแวะไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือวัดสักแห่ง จากนั้นล่องเรือผ่านหมู่บ้านประมงน้ำจืดบริเวณ ‘โตนเลสาบ’ และเพื่อเพิ่มดีกรีความคล้ายคลึงกับภาพยนตร์ Tomb Raider ให้มากขึ้นไปอีก คุณอาจแวะไปสนามยิงปืนเพื่อสนองจินตนาการด้วยการใช้ ปืน AK-47

3.หลง/เหงา/รัก (Lost in Translation, 2003) ถ่ายทำที่ชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็ชอปปิ้งที่อาคารชิบูย่า 109 ไปเที่ยวคาราโอเกะบาร์ ปรุงชาบูชาบูด้วยตัวเอง จากนั้นก็ไปเล่นปาจิงโกะเป็นชั่วโมงๆ พร้อมๆ กับเงินที่หมดไปหลายเยน ไปร้าน BIC Camera ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ทุกมุมถนน ไปนั่งเล่นที่ New York Bar ในโรงแรม Park Hyatt เพื่อฟังเพลงแจ๊ซและดื่มค็อกเทลแล้วเดินหลบหลีกมนุษย์เงินเดือนบนทางม้าลายที่ถูกถ่ายทำภาพยนตร์มากที่สุดและจอแจที่สุดในย่านชิบูย่าสแควร์

4.ห้วงรักอารมณ์เสน่หา (In the Mood For Love, 2000) สถานที่ถ่ายทำคือมาเก๊า เดินไปตามโถงทางเดินที่มีเพียงแสงสลัวของโรงแรมในยุค 1960 ในย่านประวัติศาสตร์ของมาเก๊าที่เกี่ยวข้องกับโปรตุเกส แล้วมุ่งหน้าไปยังภัตตาคารฟาซิ่วหลอเพื่อลิ้มชิมรสนกพิราบย่างอันขึ้นชื่อลือชา

5.Indochine, 1992 ถ่ายทำ ณ โรงแรม Cheong Fatt Tze Mansion รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจของปีนังก็คืออาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารอินเดีย จีน หรือมาเลย์ก็มีให้คุณเลือกชิมในราคาถูกจากแผงลอยริมถนน และภัตตาคารที่เปิดตลอดคืน โรงแรม Cheong Fatt Tze Mansion (CFTM) นี้เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะมีแต่ความโรแมนติกและของเก่าสไตล์ chinoiserie ขอแนะนำให้คุณถ่ายภาพ อ่านหนังสือ ฟังเพลงจากแผ่นเสียงหรือจะเอนกายเลียนแบบดาราภาพยนตร์อย่างยั่วยวนบนเก้าอี้นอนแล้วซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่ก็ได้

คฤหาสน์ถ่ายละคร ภาพยนตร์ ยอดนิยม ที่มีความหรูหรา


ความสำคัญและการสรรหาคฤหาสน์เพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์ ก่อนอื่นจะต้องอ่านบทละครให้จบก่อน จึงจะสามารถบอกได้ว่าคฤหาสน์ที่จะใช้ถ่ายละคร ภาพยนตร์ จะต้องมีลักษณะอย่างไร โดยจะต้องแยกบ้านของแต่ละตัวละครออกมา เช่น บ้านของนางเอกจะต้องเป็นลักษณะอย่างไร ในบทละครมีฐานะประมาณใด เช่น รวยขนาดอภิมหาเศรษฐีก็ต้องเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ ถ้าเป็นลูกมาเฟียก็ต้องหลังใหญ่มากกว่าอีก เพราะถ้าไม่อ่านบทก็จะไม่รู้ว่าคฤหาสน์ หรือบ้านของพระเอก นางเอก หรือตัวละครอื่น ๆ ควรจะเป็นอย่างไร

คฤหาสน์ที่จะให้ใช้ถ่ายละคร ภาพยนตร์ นั้นค่อนข้างหายาก การหาจึงต้องมีหลายช่องทางด้วยกัน เริ่มตั้งแต่การขับรถตะลอนหาตามหมู่บ้านใหญ่ ๆ แถวบางนา มีนบุรี ปทุมธานี หรือองครักษ์ จ.นครนายก บางหมู่บ้านก็ยินดีให้แลกบัตรเข้าไปได้ แต่บางหมู่บ้านก็เข้ายากโดยจะต้องใช้กลวิธีต่าง ๆ นานา เพื่อที่จะได้เข้าไป ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็หาที่ใหม่ บางครั้งการได้รู้จักคฤหาสน์ถ่ายละครไม่ได้รู้จากตัวเอง เพราะการหาคฤหาสน์ถ่ายละครจะมีคนทำหน้าที่นี้อยู่หลายค่ายแล้วแต่จังหวะ บางทีคนอื่นเขาไปหาได้ คนโน้นหาได้หลังนี้ก็รู้ถึงกันหมด เมื่อรู้ถึงหูเราก็ตามเช็กว่าอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร ติดต่อใคร ถ้าได้ก็จะเก็บไว้เป็นรายการคลังคฤหาสน์ของเรา

สำหรับการกำหนดพื้นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ภายในคฤหาสน์ เจ้าของบ้านจะเป็นผู้กำหนดว่า จะให้ถ่ายพื้นที่ตรงส่วนใดได้บ้าง ไม่ให้ตรงส่วนใด เช่น ห้องของพี่ไม่ให้ถ่ายนะ มุมนี้พี่ขอไม่ให้ถ่ายเพราะเวลาเข้ามาถ่ายกันพี่จะอยู่ที่มุมนี้ โดยในขณะที่ใช้สถานที่ถ่ายทำละครถ้าเจ้าของบ้านไม่อยู่เองก็จะมีคนอยู่แทนจะไม่ปล่อยให้ใช้สถานที่โดยไม่มีใครอยู่ แต่เขาจะอยู่ในส่วนของเขาไม่มายุ่งกับกองถ่ายแต่อย่างใด กว่าจะได้คฤหาสน์แต่ละหลังมาถ่ายละคร ภาพยนตร์ ต้องใช้เวลาในการหาและการเจรจาพอสมควร ใครที่มีคฤหาสน์สวย ๆ ก็อยากให้สนับสนุนกองถ่ายละครในการใช้เป็นสถานที่ถ่ายละคร คนดูละครจะได้ฮือฮากับบ้านสวย ๆ ห้องสวย ๆ ในฉากละครกันเรื่อย ๆ ต่อไป แล้วเมื่อเห็นคฤหาสน์แล้วจำกันได้หรือไม่ว่าเป็นบ้านของใครในละคร

การเลือกที่ตั้งอย่างเหมาะสมกับธุรกิจโรงเรียนด้านภาพยนต์

escueladehacercine

การเลือกทำเลถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ ฉะนั้นจึงควรใช้หลักการอีกหลักการหนึ่งเพื่อประกอบการพิจารณาเลือกทำเลของการทำธุรกิจโดยดูว่าทำเลนั้นๆเหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจหรือไม่ โดยพิจารณาจากรูปแบบธุรกิจต่างๆดังต่อไปนี้ ซึ่งอาคารและสำนักงานให้เช่าถือเป็นทางเลือกที่นิยมกันมากในหมู่ธุรกิจที่ดำเนินการเป็นสำนักงานในปัจจุบัน โดยรูปแบบการให้เช่าพื้นที่นั้นมีตั้งแต่การเช่าอาคารหรือสำนักงานทั่วไป ไปจนถึงโรงแรมต่างๆที่มักเปิดให้ธุรกิจเข้ามาเช่าพื้นที่ทำการทั้งชั่วคราวและระยะยาว สิ่งที่ถือเป็นข้อดีที่ทำให้อาคารและสำนักงานให้เช่านั้นเป็นที่แพร่หลาย คือ การที่เจ้าของอาคารจะจัดเตรียมทุกสิ่งเกี่ยวกับการจัดการและการบริหารไว้ให้คุณ  ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับและเจ้าหน้าที่ประจำอาคาร บริการโทรสาร สำเนาเอกสาร  ห้องจัดประชุม กล่าวคือแทบทุกอย่างที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินการแก่คุณ อีกทั้งการที่รวมเอาหลายบริษัทไว้ภายใต้ชื่ออาคารเดียวกันยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์กิจการของคุณให้ดูเป็นบริษัทใหญ่และเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น นอกจากนี้การเช่าพื้นที่ยังช่วยประหยัดต้นทุนในการเริ่มต้นกิจการสำหรับกิจการใหม่อีกด้วย

สำหรับธุรกิจโรงเรียนด้านภาพยนตร์ก็เช่นเดียวกันควรที่จะสำรวจทำเลที่ตั้งต่างๆ ก่อน เพราะการที่ธุรกิจในด้านนี้จะประสบความสำเร็จนั้นจะขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้เป็นหลัก อาจจะต้องศึกษาว่าสถานที่แห่งนี้มีผู้คนมากน้อยเพียงใด ผู้คนสามารถเข้าถึงได้สะดวกหรือไหม ทางที่ดีควรจะหาสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางที่ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายไปมาสะดวกที่สุด ซึ่งสำหรับสิ่งสำคัญที่สุดของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจโรงเรียนด้านภาพยนต์ คือ ทําเลที่ตั้ง และการเข้าถึงรวมทั้งปัจจัยอื่นๆ

จะเห็นได้ว่าการลงทุนในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อะไรก็แล้วแต่ ควรจะต้องศึกษาข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วนก่อนที่จะตัดสิ้นใจซื้อเพราะหากตัดสินใจผิดพลาดนั้นอาจจะทำให้เป็นหนี้สิ้นอีกด้วย อีกทั้งควรจะมีการวางแผนการทำงานต่างๆ อย่างเป็นระบบด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินกิจการให้บรรลุไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้แล้วหากมีการลงทุนในด้านนี้แล้วก็ควรจะมีการแนะนำประชาสัมพันธ์เพื่อให้เป็นที่รู้จัก เพื่อให้ธุรกิจโรงเรียนด้านภาพยนต์สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อย่างก้าวขวาง

การเลือกสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์

เคยนึกแปลกใจบ้างหรือไม่ว่า ทำไมชาวต่างชาติจึงรู้จักประเทศไทย และพากันหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมความงดงามของสยามเมืองยิ้มอย่างไม่ขาดสายแน่นอนว่า การประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวในสื่อต่างๆ ย่อมมีผล และ “ภาพยนตร์” ก็เป็นสื่อหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ ซึ่งมันเรียก “แขก” ได้ดีพอสมควร

ยืนยันได้จากภาพยนตร์ต่างประเทศหลายๆ เรื่องที่ถ่ายทำในประเทศไทย ส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น James Bond 007, Good Morning Vietnam, The Beach หรือล่าสุด Lost in Thailand ที่เรตติ้งดีกระจาย พลเมืองแดนมังกรพากันล่องใต้มาเยี่ยมชมความสวยงามของเมืองไทยจนเจ้าของประเทศตั้งรับแทบไม่ทัน

อย่างไรก็ตาม การมี “ต้นทุน” ที่สมบูรณ์ทั้งในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม หรือประเพณีที่ดีงาม อาจไม่ใช่ทั้งหมดของการเลือกใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของชาวต่างชาติ เพราะจากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการต่างประเทศส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เลือกเมืองไทยเพราะ “คนไทย” ฝีมือดีและมีความพร้อม “จริงๆ สภาพธรรมชาติ บ้านเมืองอาจไม่แตกต่างกันมาก แต่สำหรับผมสิ่งที่ประเทศไทยไม่เหมือนใครเลยก็คือผู้คน” Arslan Hafiz Location manager และ Production Manager จากประเทศฝรั่งเศส บอกอย่างนั้น

เช่นเดียวกับ Ada Shen Production manager สาวชาวจีน ที่มีผลงานชื่อดังอย่างภาพยนตร์ Kill Bill ยืนยันว่า “คนไทยเก่งจริงๆ” และเธอก็กำลังตัดสินใจว่า จะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ในประเทศไทย

หากย้อนกลับไป ประเทศไทยเปิดรับผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยเป็นเวลานาน และนับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ตัวเลขของรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยก็ไม่เคยต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท หรือบางปีก็ทะลุ 2,000 ล้านบาท จะมีเพียงปี 2552 เท่านั้นที่มีรายได้รวมเพียง 897.83 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากความไม่สงบทางการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนาน แต่สถานการณ์หลังจากนั้นก็ดีขึ้นเป็นลำดับ จนปี 2556 นี้ตัวเลขทำท่าว่าจะกระโดดขึ้นไปแตะที่เลข 2,000 ล้านบาทแบบสบายๆ

หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ทางกองกิจการภาพยนตร์ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับมาจัดเทศกาลภาพยนตร์ดังกล่าวอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 20-29 เมษายน 2014 ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ วัตถุประสงค์หลักเพื่อต้องการเผยแพร่ศักยภาพของประเทศไทยในความพร้อมด้านการบริการ ดึงดูดให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งในปี 2014 ตั้งเป้าการขยายตัวของรายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2013 ที่มีรายได้ 2,175 ล้านบาท ปัจจุบันไทยเผชิญกับการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ตอบแทนทั้งด้านลดหย่อนภาษีอุปกรณ์ ภาษีนักแสดง มีการคืนเงิน 30% ของมูลค่าผลิตภาพยนตร์ระหว่างการถ่ายทำ บ้านเราช่วงนี้หยุดชะงัก เพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้กองกิจการภาพยนตร์ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น

การเลือกทำเลในการเปิดโรงเรียนด้านภาพยนต์

เมื่อภาพยนตร์ไทย กลายเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ในปัจุบันธุรกิจด้านภาพยนตร์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว การผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน และเรื่องของทำเลในการเปิดโรงเรียนด้านภาพยนต์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญ ต่อความสำเร็จของธุรกิจ กล่าวคือผู้ประกอบการท่านใดมีทำเลดีถือว่าได้เปรียบคู่แข่งขันโดยผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละประเภทจะใช้ทำเลที่ตั้งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คงไม่มีอะไรที่จะเหนือเกินกว่าทําเลไปได้ ปัจจัยอื่นๆ ที่ใครว่ามีความสำคัญ ถ้าพิจารณาดูจริง ๆ จะพบว่าล้วนเป็นปัจจัยที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากทำเล ทั้งสิ้น

การเลือกทำเลถือเป็นทั้งศาสตร์และศิลปินที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่เป็นตัวกำหนดคุณค่าของทำเล รวมถึงทักษะในการวิเคราะห์และพิจารณาทำเลด้วย ทั้งนี้เพราะทำเลจะดีหรือไม่ดี คุณค่าจะถูกกำหนดจากเงื่อนไขการนำไปใช้ประโยชน์เป็นสำคัญ

ในทางธุรกิจ แล้วทำเลที่ตั้งจะเป็นตัวบอกถึงความสำเร็จหรือล้มเหลวของธุรกิจได้ ดังนั้นบริษัทจำนวนมากจึงมักให้ความสำคัญกับงานในการเลือกทำเลเปิดสาขา หรือทำเลเปิดกิจการในรูปแฟรนไชส์โดยปกติจะมีการจัดทั้งหน่วยงานขึ้นมาทำหน้าที่ในการสำรวจ วิเคราะห์ และเลือกทำเลเป็นการเฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสาคัญของศาสตร์ในด้านการเลือกทำเลในวงการธุรกิจไดัเป็นอย่างดีรวมทั้งโรงเรียนด้านภาพยนตร์ด้วยต้องมองทำเลที่เป็นทำเลทอง ที่คนสามารถเข้าถึงเยอะและเป็นศูนย์กฃางของผู้คน เพื่อให้ได้มาซึ่งลูกค้าหรือผู้ใช้บริการในการไปเรียนด้านภาพยนตร์ ยิ่งงานทางด้านภาพยนตร์ยิ่งบูมเท่าไหร่ คนก็ยิ่งมีความสนใจที่จะเรียนมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงเป็นอันดับต้นๆก็คือเรื่องของทำเล เพราะถ้าเราได้ทำเลที่ดีเท่ากับว่าเรามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

เคล็ดลับแต่งบ้านเสริมความสุขรับปีใหม่ กับเทรนด์สีมาแรงปี 2014

ตามความเชื่อโบราณถือว่าวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี ถือเป็นวันดีสำหรับเริ่มต้นสิ่งใหม่ ผู้คนจึงมักจะพากันทำความสะอาดบ้าน ซ่อมแซมบ้าน หรือตกแต่งบ้านใหม่ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการทิ้งสิ่งไม่ดีในปีเก่า และเริ่มต้นสิ่งดีๆ และความเป็นสิริมงคลในปีใหม่ การตกแต่งบ้านในช่วงปีใหม่ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบ้านเป็นสภาพแวดล้อมที่ผูกพันกับผู้อยู่อาศัยทั้งด้านความคิด อารมณ์ และจิตใจ นอกจากนี้ การเลือกสีทาบ้านที่เข้ากับบุคลิกของผู้อยู่อาศัยก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะสีทาบ้าน และการตกแต่งบ้านที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยนั้น จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านรู้สึกผ่อนคลาย ส่งเสริมให้มีความคิดปลอดโปร่ง อารมณ์แจ่มใส และมีความสุข แต่หากเราเลือกสีทาบ้านที่ไม่เหมาะสม ก็จะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกหม่นหมอง หดหู่ หรือร้อนรุ่ม กระวนกระวาย และไม่สบายใจได้

ดังนั้น ในช่วงส่งท้ายปีเก่าที่กำลังจะมาถึง นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร จึงมีเคล็ดลับในการเลือกโทนสีทาบ้านเพื่อให้เข้ากับบุคลิก และเทคนิคการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากันมาฝาก เพื่อรับปี 2014 แบบไม่ตกเทรนด์ และยังช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

เริ่มด้วยโทนสีแบบธรรมชาติ (Close to Nature) โทนสีที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ได้แก่ สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลไม้โอ๊ค สีส้มอิฐ สีเขียวใบไม้ สีเขียวอมเหลือง สีทองอมเขียว สีเชสนัทหรือน้ำตาลอมม่วง สีเทาควันบุหรี่ และสีฟ้าอมเขียว โทนสีนี้จะช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ ร่มเย็น ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้นในยุคที่มีแต่ความวุ่นวายและความเจริญทางวัตถุเข้ามา สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับโทนสีนี้ ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ หวาย ผ้าฝ้าย หรือเชือก แทนที่เฟอร์นิเจอร์โลหะ หรือพลาสติก เหมาะกับผู้ที่ชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย รักการท่องเที่ยวแบบผจญภัยและรักธรรมชาติ โดยเฉพาะคนที่เกิดวันพฤหัสบดี เพราะส่วนมากจะเป็นคนรักสันโดษ ชอบความสงบ และรักธรรมชาติ รองลงมา คือ คนที่เกิดวันอาทิตย์ ซึ่งถูกโฉลกกับบ้านไม้ และบ้านโทนสีสว่าง อบอุ่น

โทนสีพาสเทลหรูหรา (New Luxury) เป็นโทนสีที่สื่อถึงความหรูหราสง่างาม แต่แฝงด้วยความเรียบง่าย ได้แก่ สีเทาอมม่วงเบอร์รี่ สีเทาตะกั่ว สีฟ้าอ่อน สีฟ้าอมเทา สีโอรสอ่อน สีน้ำตาลแทน สีเหลืองทราย สีเขียวอ่อน สีฟ้า สีชมพูอ่อน โทนสีนี้สะท้อนแนวคิดที่หยั่งลึกถึงการเติมเต็มในด้านจิตใจที่อยู่เหนือวัตถุ ทำให้บ้านเป็นสถานที่พิเศษในทุกโอกาส เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกควรมีลักษณะเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหรา มีดีไซน์ทันสมัยแบบเก๋ๆ และมีสีอ่อนสบายตาให้เข้ากับสีบ้าน ที่สำคัญต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับใช้ได้หลายแบบ เพื่อลดจำนวนชิ้นให้น้อยลง ทำให้มีพื้นที่โล่งมากขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่มีความละเอียดอ่อนในการใช้ชีวิต โทนสีนี้ เหมาะกับคนที่เกิดวันอังคาร วันศุกร์ และวันเสาร์ เพราะคนที่เกิดในวันดังกล่าวมักชอบความเรียบง่าย ความหรูหรา และใส่ใจรายละเอียด ในขณะที่คนที่เกิดวันจันทร์ ก็สามารถเลือกโทนสีนี้ในการตกแต่งบ้าน เพราะถูกโฉลกกับสีฟ้าอ่อน และสีโทนอ่อน ที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย สงบร่มเย็น และควรหลีกเลี่ยงการใช้สีฉูดฉาด เพราะอาจรู้สึกร้อนรุ่ม กลุ้มใจได้

และสุดท้ายกับโทนสีแห่งความสดใส (Individuality & Optimism) โทนสีที่สื่อถึงความสนุกสนานร่าเริง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ สีเขียวสด สีชมพูสด สีฟ้าสด สีม่วงแดง สีส้ม สีน้ำเงินสว่าง สีม่วงกุหลาบ สีเหลืองทอง สีแดง และสีชมพู โทนสีนี้ให้ความรู้สึกสดใส ทำให้บรรยากาศในบ้านโดดเด่น ดูมีความเคลื่อนไหวและมีชีวิตชีวา เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่มีบุคลิกมั่นใจ กระฉับกระเฉง กล้าหาญ ชอบความตื่นเต้น มีทัศนคติที่ดี ชอบความเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ควรเน้นดีไซน์ที่มีสีสันสดใสเช่นกัน และอาจเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเลือกให้เข้าคู่สีกับผนังได้อย่างลงตัว เน้นรูปทรงแบบเรขาคณิต หรือมีลายกราฟิก โทนสีนี้เหมาะกับคนที่เกิดวันพุธ เพราะคนที่เกิดวันพุธมักมีบุคลิกคล่องแคล่ว มั่นใจ และมีเสน่ห์เฉพาะตัว

การเลือกสีทาบ้าน ควรเลือกให้เหมาะกับความชอบ รสนิยม และบุคลิกของผู้อยู่อาศัย เพื่อเกื้อหนุนให้เกิดความสุข ความเจริญของคนในบ้าน ที่สำคัญการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับสีในบ้านก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เพื่อให้บ้านดูสวยทันสมัย ลงตัว และน่าอยู่ ทั้งนี้ หากเลือกสีและเฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่ได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็จะทำให้คนในบ้านมีแต่ความสุข ความสบายใจ ถือเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งสำหรับต้อนรับปีม้าคึกคัก 2014 ที่กำลังจะมาถึงนี้